ไม่พบผลการค้นหา
World Trend - ลอรีอัล-อาลีบาบา จับมือใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก - Short Clip
World Trend - สื่อใหญ่ลั่น 'ผิดหวังอย่างยิ่ง' ไทยออกกม.ไซเบอร์ - Short Clip
World Trend - ​​สตูดิโอใหญ่เลือก 'นิวเม็กซิโก' ทำเลเมืองหนังใหม่ - Short Clip
World Trend - อาลีบาบาขึ้นแท่นแบรนด์มูลค่าสูงสุดในจีน - Short Clip
World Trend - 'แอมะซอน' ขึ้นแท่นบริษัทมูลค่ามากที่สุดในโลก - Short Clip
World Trend - ​อัลฟาเบตลงทุนเพิ่มหมื่นล้านกับ 'เมืองใหม่' - Short Clip
World Trend - แอปเปิลครองตลาดสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียม - FULL EP.
World Trend - กูเกิล ทุ่ม 1 พันล้านดอลลาร์ เปิดสำนักงานใหม่ในนิวยอร์ก - Short Clip
World Trend - ยอดขายหูฟังไร้สายจะแตะ 129 ล้าน ในปี 2020 - Short Clip
World Trend - ​'แชร์พื้นที่อาศัย' เทรนด์ฮอตใหม่ในซิลิคอนแวลลีย์ - Short Clip
World Trend - ​คาด 'เงินพนัน' สะพัดเป็นประวัติการณ์ในซูเปอร์โบวล์ปีนี้ - Short Clip
World Trend - 'เนื้อสัตว์ทดแทน' อุตสาหกรรมใหม่ที่อาจโตอีก 20 เท่า - Short Clip
World Trend - สตาร์บัคส์วางกำหนดเลิกใช้หลอดพลาสติก - Short Clip
World Trend - 'โทรแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย' ข้อจำกัดของลำโพงอัจฉริยะ - Short Clip
World Trend - นักวิจัยแนะใช้โซเชียลมีเดียวันละ 30 นาที - Short Clip
World Trend - แอมะซอนเตรียมเปิด 3,000 ร้าน ใน 3 ปี - Short Clip
World Trend - ฮอลลีวูดกับการแบนกม.ทำแท้งในจอร์เจีย - Short Clip
World Trend - ​ฝรั่งเศสขึ้นภาษี กูเกิล-แอปเปิล-เฟซบุ๊ก-แอมะซอน - Short Clip
World Trend - 'ชุดเช่า' เทรนด์ธุรกิจแฟชั่นที่ยังไปได้อีกไกล - Short Clip
World Trend - โดมิโน่เตรียมใช้รถไร้คนขับส่งพิซซา - Short Clip
World Trend - 'มาตรการรักษ์โลก' การแข่งขันอีกมิติของบริษัทไอที - Short Clip
Oct 18, 2018 16:31

การแข่งขันทำธุรกิจไม่ได้อยู่ที่พัฒนาสินค้าและบริการเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงมาตรการอื่น ๆ ที่บริษัทเลือกที่จะทำหรือไม่ทำด้วย เช่นในตอนนี้ที่บริษัทไอทียักษ์ใหญ่หันมาแข่งกันวางมาตรการ 'รักษ์โลก' อย่างที่ล่าสุด แอมะซอนออกมาประกาศลงทุนในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และรีไซเคิล

การแข่งขันทำธุรกิจไม่ได้อยู่ที่พัฒนาสินค้าและบริการเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงมาตรการอื่น ๆ ที่บริษัทเลือกที่จะทำหรือไม่ทำด้วย เช่นในตอนนี้ที่บริษัทไอทียักษ์ใหญ่หันมาแข่งกันออกมาตรการ 'รักษ์โลก' หรือก็คือ ลดการปล่อยมลพิษหรือแก๊สเรือนกระจกลง อย่างล่าสุด แอมะซอนออกมาประกาศลงทุนในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และรีไซเคิล

แอมะซอน บริษัทอีคอมเมิร์ซรายใหญ่สัญชาติอเมริกัน ประกาศลงทุนใน 2 โครงการใหม่ ตั้งเป้าลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม โดยลงทุน 10 ล้านดอลลาร์ หรือ 330 ล้านบาท ในโครงการ Closed Loop Fund โครงการที่บริษัทเอกชนร่วมทุนเพื่อพัฒนาระบบรีไซเคิลในเขตปกครองท้องถิ่นทั่วสหรัฐฯ และอีกโครงการหนึ่ง แอมะซอนจะติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 20 เมกะวัตต์ ให้กับโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ แอมะซอนยังลงนามปฏิญาณว่า บริษัทจะซื้อเครดิตพลังงานสะอาดให้มากพอจะครอบคลุม 100 เปอร์เซ็นต์ของอาคารในสหราชอาณาจักรด้วย

เท่ากับว่า แอมะซอนจะมุ่งสนับสนุนโครงการรีไซเคิลภายในประเทศ ในฐานะที่เป็นบริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโซนอเมริกาเหนือ และมีการขนส่งกล่องกระดาษขนาดต่าง ๆ ไปทั่วประเทศทุกวัน ซึ่งการร่วมโครงการ Closed Loop Fund จะทำให้เกิดการกระจายเงินทุนไปยังโครงสร้างพื้นฐานด้านการรีไซเคิลในแต่ละเมืองได้อย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ แอมะซอนได้ระบุในการแถลงล่าสุดด้วยว่า สถิติปัจจุบันชี้ว่า ครึ่งหนึ่งของชาวอเมริกันยังไม่เข้าถึงบริการเก็บขยะรีไซเคิล ทำให้กล่องกระดาษและวัสดุเหลือใช้ที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้จำนวนมาก ถูกทิ้งรวมกับขยะอื่น ๆ และมารวมอยู่ในบ่อพักขยะในขั้นตอนสุดท้าย

เดฟ คลาก รองประธานอาวุโสที่ดูแลด้านกิจการสิ่งแวดล้อมทั่วโลกของแอมะวอน กล่าวว่า บริษัทลงทุนใน Closed Loop Fund เพราะคิดว่าการเข้าถึงกระบวนการรีไซเคิลเบื้องต้น เป็นปัจจยพื้นฐานที่จ��ช่วยลดคาร์บอนฟุตพรินต์ หรือ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมไปถึง เอเนอร์จีฟุตพรินต์ และวอเตอร์ฟุตพรินต์ ได้ในระยะยาว

สำหรับในกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นฮับส่งสินค้าของแอมะซอนในยุโรป ก็เตรียมติดตั้งระบบแผงโซลาร์เซลล์ในช่วง 18 เดือนข้างหน้า เพื่อผลิตพลังงานให้ได้ เทียบเท่ากับพลังงานสำหรับ 4,500 ครัวเรือน ซึ่งเบื้องต้นจะสามารถลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ราว 6,000 เมตริกตันต่อปี

แม้จะออกมาประกาศโครงการสำคัญครั้งใหญ่เช่นนี้ แต่บริษัทขนาดใหญ่อย่างแอมะซอนก็ยังถือว่าล้าหลังกว่าบริษัทไอทีอื่น ๆ ทั้ง แอปเปิล กูเกิล เฟซบุ๊ก และไมโครซอฟท์อยู่มาก เพราะในกลุ่ม Big Five นี้ อีก 4 บริษัทที่นอกเหนือจากแอมะซอน ได้ลงทุนในโครงการพลังงานสะอาดมาแล้วตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้บริษัทสามารถใช้พลังงานสะอาด 100 เปอร์เซ็นต์ให้ได้เร็วที่สุด

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา แอปเปิลและกูเกิลต่างก็ทำสำเร็จแล้ว ขณะที่ เฟซบุ๊กก็จะเป็นบริษัทพลังงานสะอาด 100 เปอร์เซ็นต์ได้ในปี 2020 ส่วนไมโครซอฟท์นั้น เป็นบริษัท carbon neutral ที่ไม่ปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศมาแล้วหลายปี และหลังจากนี้ต้องจับตาดู ซัมซุงและโซนี่ ซึ่งนับวันก็จะลงทุนในด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานสะอาดมากขึ้นเรื่อย ๆ

กลับมาดูที่ แอมะซอน ที่กำลังเร่งเครื่องด้านมาตรการรักษ์โลกอยู่ในขณะนี้ เคยถูกตำหนิจากองค์กรกรีนพีซมาแล้วว่าไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลด้านการใช้พลังงานต่อสาธารณะ และให้ความสำคัญกับการขยายศูนย์ข้อมูลมากกว่าการจัดการกับคาร์บอนฟุตพรินต์

อย่างไรก็ตาม การออกมาตรการของแอมะซอน และความล่าช้ากว่าบริษัทยักษ์ใหญ่อื่น ๆ เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะการทำธุรกิจด้านชิปปิง ลอจิสติกส์ และค้าปลีก เป็นสิ่งที่แตกต่างจากการผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์ การทำเสิร์จเอนจิน หรือโซเชียลเน็ตเวิร์ก เพียงอย่างเดียว จึงเจอกับข้อจำกัดและอุปสรรคด้านการลดมลพิษมากกว่า 

ปัจจุบัน บริษัทภายใต้แอมะซอนที่ประกาศจะใช้พลังงานสะอาด 100 เปอร์เซ็นต์ มีเพียงส่วนที่เป็น AWS คลาวด์คอมพิวเตอร์เท่านั้น และจากข้อมูลเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ ก็ระบุว่ายังทำได้เพียง 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหลายฝ่ายก็คาดหวังให้แอมะซอนประกาศเป้าหมายเดียวกันกับทุกแผนก

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
184Article
76559Video
0Blog