นักวิทยาศาสตร์เตรียมเปิดฟาร์มเพาะสาหร่ายสีแดง เพื่อทำไปเป็นอาหารให้แก่วัว เพราะสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนจากวัวได้
นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Sunshine Coast ของออสเตรเลียค้นพบการนำสาหร่ายสีแดงที่ชื่อ Asparagopsis taxiformis ผสมในอาหารของวัวจะช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนจากสัตว์ได้ถึง 99 เปอร์เซ็นต์ โดยในสาหร่ายสีแดงจะมีสารเคมที่จะช่วยลดจุลินทรีย์ในท้องของสัตว์ ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดก๊าซมีเทน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์นิโคลัส พอลกล่าวว่า หากมีการเพาะเลี้ยงปลูกสาหร่ายสีแดงที่มีปริทมาณที่มากพอ มันจะสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของออสิตรเลียได้ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ โดยนำสาหร่ายสีแดงชนิดแห้งไปผสมกับอาหารในปริมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ของอาหารที่ให้วัวกินก็จะสามารถช่วยยั้งยังการปล่อยก๊าซมีเทนได้อย่างสมบูรณ์
นอกจากนี้ทีมนักวิจัยยังเดินหาค้าหาสายพันธุ์ของสาหร่ายสีแดงที่จะสามารถนำมาเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์ที่ทำให้ได้จำนวนสาหร่ายสีแดงปริมาณมากได้ ซึ่งที่ผ่านมาพวกเรายังคงเก้บสาหร่ายสีแดงที่ได้จากธรรมชาติและยังไม่มีการเพาะเลี้ยงอย่างจริงจัง
การปล่อยก๊าซมีแทนของวัวและสัตว์เคี้ยวเอื้องอื่นๆคิดเป็น 37 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับอัตราส่วนการปล่อยก๊าซมีเทนของกิจกรรมจากมนุษย์ โดยวัวนั้นมีอัตราการปล่อยก๊าซมีเทนถึง 65% จากวัวทั่วโลกที่มีมากกว่ากว่า 1,500 ล้านตัวในปัจจุบัน
ขณะที่กิจกรรมและพฤติกรรมการกินของวัว ทำให้วัวต้องเรอและผายลมเพื่อระบายก๊าซออกจากร่างกายทั้งวัน โดยประมาณ 90% เป็นการเรอ และที่เหลืออีก 10% เป็นผายลม ซึ่งทำให้วัวตัวหนึ่งปล่อยก๊าซมีเทนออกมาถึง 200-500 ลิตรต่อวัน